เนื่องจากที่นอนไม่ได้นอนมาเป็นเวลาครึ่งปี พอกลับมา ก็ได้แค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนอย่างเดียว หลังจากนั้นแม่ค้าก็นอนมาเป็นเวลาเกือบเดือนก็มี อาการคัน, เป็นผื่นตามตัว หลังตื่นนอนทุกครั้ง จนเริ่มมาสังเกตุ จึงลองเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอีกครั้ง และนำที่นอนไป ทำความสะอาด, ปัดฝุ่น, ตากแดด, ทำความสะอาดด้วยเดทตอล หลังจากนั้น อาการผื่นจึงเริ่มลดลง ดีขึ้น จนหายในที่สุด สำหรับหน้าตาผื่นนั้น เป็นเหมือนผื่นไรฝุ่นเลยค่ะ มันจะขึ้นเป็นตุ่มคล้ายยุงกัด เป็นจั้มๆเต็มตัวไปหมด 

ไรฝุ่น เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมาก ตัวใส ๆ มี 8 ขา จึงมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น      ไรฝุ่น มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 0.1 – 0.3 มิลลิเมตร (100 – 300 ไมครอน)     

ที่อยู่อาศัย:  ไรฝุ่นมักมากับฝุ่นละอองที่ล่องลอยในอากาศ มีมากในที่นอน หมอน ผ้าห่ม และที่ที่มีเส้นใยหนาแน่น เช่น ตุ๊กตา พรม เฟอร์นิเจอร์ผ้า ฟูกเตียง ฯลฯ

แหล่งอาหาร:  อาหารของไรฝุ่นคือ เศษเซล สะเก็ดผิวหนังซึ่งหลุดร่วงจากตัวเรา  เราจะสลัดเศษเซลเหล่านี้ วันละประมาณหลายพันล้านชิ้นต่อวัน ส่วนใหญ่ตกลงบนที่นอน และร่างกายก็จะขับเหงื่อในขณะที่เรานอนทำให้ที่นอนมีความชื้นเหมาะแก่การอยู่อาศัยของไรฝุ่นเป็นอย่างดี

สภาพที่เหมาะสม:   คือสภาพที่มืดชื้นและอุ่น  ไรฝุ่นไม่สามารถอยู่ในสภาพร้อนจัด (สูงกว่า 50 องศาเซลเซียส)  และเย็นจัด (ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส) สภาพภูมิอากาศเมืองไทยมีความร้อนชื้นซึ่งเหมาะแก่การเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์

การแพร่พันธุ์:  ไรฝุ่นจะมีชีวิตอยู่ได้นาน 3 – 4 เดือน หลังจากฟักตัวออกจากไข่ประมาณ 6 สัปดาห์ไรฝุ่นจะเติบโตเต็มที่พร้อมสืบพันธุ์ ตัวเมียแต่ละตัวจะออกไข่ครั้งละประมาณ 80 – 100 ฟอง ปริมาณของไรฝุ่นในที่นอนจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา ยิ่งที่นอนที่ใช้งานมานาน ๆ ก็ยิ่งมีไรฝุ่นมาก

โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่

• รักษาไม่หายขาด ทรมาน
• เสียค่ายา และ ค่ารักษาพยาบาลตลอดชีวิต
• สุขภาพกาย  สุขภาพจิต เสื่อม
• ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  

 
อันตราย:   ตัวไรฝุ่นที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ทำอันตรายโดยตรงกับคนเราแต่ส่วนที่มีผลต่อสุขภาพคือ มูลและซากไรฝุ่นจะถ่ายออกมาเป็นเมือกเหนียว ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้  และการที่ไรฝุ่นเคลื่อนไหวไต่ไปมาตามเส้นใยที่นอน จึงเป็นการนำเอาเชื้อโรค มูล ซาก ออกมายังพื้นผิวที่นอนซึ่งเราต้องนอนสัมผัสคลุกคลีและสูดดมสิ่งเหล่านี้เข้าไปภายในร่างกาย

อาการ:   ที่เกิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับไรฝุ่นและมูลของมันอย่างต่อเนื่อง
ทางผิวหนัง   คัน ระคายผิว อาจมีอาการภูมิแพ้ซึ่งอาการที่พบได้แก่ ผิวหนังบวมแดง คัน เป็นผื่น สิว ลมพิษ ไปจนถึงผิวหนังอักเสบ
ทางตา   คัน เคืองตา มีขี้ตามีน้ำตา จนอาจกลายเป็นภูมิแพ้ซึ่งมักมีอาการ ตาบวม ตุ่มน้ำที่หนังตา ตาแดง ริดสีดวงตา จนอาจพัฒนาไปเป็นตาต้อ 
ทางการหายใจ   คัน คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ไอ จนกลายเป็นภูมิแพ้ ซึ่งมักพบอาการจมูกอับเสบ บวม ริดสีดวงจมูก ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไปจนถึงอาการหอบหืด


รับข้อมูลและข่าวสารเพิ่มเติม
LINE : @rainbow.th
FACEBOOK : RainbowSoleDistributorTH